คำแนะนำ หากท่านมองตัวอักษรไม่ชัดให้เลื่อนไปหาแสงเทียนจะช่วยส่องให้เห็นชัดขึ้นค่ะ





แสงเทียนส่องไฟ แสงธรรมส่องทาง สู่พระนิพพาน

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

พลิกแพลง “กรรมเก่า” ด้วย “กรรมใหม่”




หากเฝ้าแต่เพียรขอ แต่ไม่เพียรพยายามลงมือกระทำความสำเร็จจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร


อย่าฝากความหวังไว้กับคนอื่น ไม่มีใครในโลกนี้แม้แต่พระพุทธเจ้าที่จะแก้กรรมให้เราได้ค่ะ นอกจากตัวเราเองเท่านั้น คนอื่นๆ เป็นได้แค่เพียงผู้ถือเล่มเทียนหรือกระบอกไฟฉายส่องทางให้เท่านั้น ท่านจะออกมาได้หรือไม่ก็อยู่ที่ตัวท่านเองว่าจะก้าวเดินออกมาหรือจะนั่งรอขอพรอยู่แต่ตรงนั้นตลอดไป...


หากไม่อยากก้มหน้ารับกรรมเก่าอย่างเจ็บปวดทรมานก็ลุกขึ้นมาสร้างกรรมใหม่ที่ดีๆ เพื่อพลิกแพลงกรรมเก่านั้นเสีย แล้วเราจะแก้กรรมได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวเราเองค่ะ


การแก้กรรมก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมากมายเลย แค่ทำบุญใน 3 หมวดให้ถึงพร้อม ทั้งกาย ทั้งใจ
รายละเอียดในการทำบุญต่างๆ นุ้ยได้เคยกล่าวไว้ในหมวด บันทึกทาน บันทึกศีล บันทึกภาวนาแล้ว ท่านลองกลับไปหาอ่านดูได้ค่ะ ในที่นี้นุ้ยขอกล่าวแบบพอเข้าใจง่ายๆ ดังนี้


การทำทาน เป็นการทำบุญที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ กลับมาทั้งสิ้น หากทำบุญแล้วหวังแล้วขอนู้นขอนี้ นั้นไม่ได้เรียกว่าทำบุญ แต่เรียกว่าการลงทุนอย่างหนึ่ง


การถือศีล เป็นการช่วยห้ามจิตใจเราเองไม่ให้ทำบาปได้ รู้จักการยับยั่งชั่งใจ เกรงกลัวต่อบาปมากขึ้น จิตใจเราก็จะสะอาดมากขึ้นด้วย


การภาวนา ไม่ว่าจะภาวนาด้วยวิธีใดก็ตาม รวมถึงการสวดมนต์ไหว้พระ เป็นการทำให้จิตใจเราสงบลง คนส่วนใหญ่จะคิดว่า วันนี้มีเรื่องให้คิดมากไม่สวดมนต์ล่ะกัน นั้นล่ะคิดผิดถนัดเลย การสวดมนต์ช่วยให้เราระงับสติ อารมณ์ได้ในขณะหนึ่ง และการภาวนาบ่อยๆ จนทุกขณะจิตได้จะทำให้เรามีเป็นผู้มีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ทำให้เราวู่วามทำอะไรลง จะทำให้เรารู้จักการพิจารณาสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้น และเห็นทุกข์ สุข ต่างๆ ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาๆ มากขึ้นการหาทางออกของปัญหาต่างๆ ก็จะง่ายขึ้นตามมา




การแก้กรรมด้วยการสร้างบุญนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไร ไม่ต้องเสียเงินทองมากมายเลย เพียงแค่ท่านลงมือทำด้วยตัวท่านเท่านั้นเอง แต่คนส่วนใหญ่มักจะขี้เกียจ ชอบใช้เงินทำแทน ก็เลยเป็นช่องทางให้พวกมิจฉาชีพทั้งหลายสบายปากสบายท้องกันไป




จากประสบการณ์ในการพยากรณ์กรรมให้หลายๆ ท่านที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่า หากผู้ประสบเคราะห์กรรม(เก่า)อยู่นั้น ลุกขึ้นมาต่อสู้สร้างกรรมใหม่ฝ่ายดีอย่างสม่ำเสมอ จะพลิกแพลง “กรรมเก่า” ได้อย่างง่ายดาย ผิดกับคนที่ไม่ยอมทำอะไร นอกจากสวดมนต์วิงวอนบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเดินสายทำพิธีแก้กรรมไปทั่วสารทิศและกลับมานอนรอให้เกิดปฏิหารต่างๆ มีแต่จะเสียกับเสีย เสียทั้งเงินทอง เสียทั้งเวลา แทนที่จะนำเงินทองและเวลาเหล่านั้นไปทำบุญสร้างกรรมใหม่ขึ้นมาจะดีกว่าใหม่ อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า   “ไม่มีใครแก้กรรมให้เราได้นอกจากตัวเราเอง”




นุ้ยจะเปิดห้องใหม่ ชื่อห้อง 
 “ พลิกแพลงกรรมเก่าด้วยกรรมใหม่” จะเป็นการนำการพยากรณ์กรรมในแต่ละครั้งซึ่ง ชื่อ สถานที่ นุ้ยจะไม่เปิดเผยแต่อย่างใด เพียงแต่จะนำวิธีการพลิกแพลงกรรมในแต่ละเรื่องมาเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทานให้ผู้อื่นต่อไป




จึงขออนุญาตเจ้าของเรื่องทุกท่านที่นุ้ยนำมาลงไว้ ณ ที่นี่ด้วยค่ะ






บุญญาบารมี
ทุกบทความในเวป http://www.banimboon.com/ เป็นลิขสิทธิ์ของบ้านอิ่มบุญ ห้ามดัดแปลง คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฏหมาย